How to make flower candles
ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่บล็อกของเรานะคะ บล็อกเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการปั้นดอกไม้เทียน แบบ step by stap สำหรับผู้สนใจที่จะทำเทียนเป็นอาชีพเสริม ทำเเจกในวันสำคัญ ทำใช้เอง หรือแม้กระทั่งทำเป็นอาชีพหลักก็ได้ค่ะ
วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562
วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2561
วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2554
มารู้จักวัตถุดิบหลัก ในการทำเทียนกันเถอะ
สวัสดีค่ะ.......วันนี้พี่หมีจะพามารู้จักวัตถุดิบหลักในการทำเทียนกันนะคะ
1. ฟูลลี่พาราฟิน
เป็นวัตถุดิบที่หลงเหลือจากการกลั่นน้ำมัน ส่วนใหญ่จะนำเข้าจากจีน ......ของประเทศไทยเองก็มีเหมือนกันค่ะ แต่คนละชนิดกัน และไม่เหมาะกับงานปั้นดอกไม้เทียน......
ฟูลลี่พาราฟินที่เจ๋งที่สุดก็มีขายอยู่ที่ร้านฮงฮวด สี่แยกวัดตึกน่ะค่ะ แพงหน่อย ...แต่ดีมาก ใส สวย ไม่มีกลิ่นน้ำมันเลย เวลาผสมน้ำหอมลงไป จะหอมมาก แถมสะอาด ไม่มีตะกอนสกปรก ไม่ปริแตกง่าย ดอกไม้เทียนของเราจะพริ้วสวย บางได้อย่างที่ต้องการเลยล่ะค่ะ.....
ราคากิโลกรัมละ น่าจะอยู่ที่ 80-90 บาท.....พี่หมีไม่แม่นนะคะ เพราะไม่ได้ซื้อของสเป็คนี้ มันแพงเกินไปสำหรับทำขายค่ะ........
ของพี่หมีใช้ของจีน ซื้อจากบริษัทที่นำเข้ามาโดยตรง สวยใสเหมือนกัน ราคาถูกกว่า แต่มีตะกอนเล็กน้อยเท่านั้นค่ะ ........
2. ไมโครแว๊กซ์ ตามรูปข้างบนน่ะค่ะ
ตัวนี้มีหลายสเป็คมาก มาจากหลายประเทศ ทั้งจีน เสปน ญี่ปุ่น ตัวที่ดีที่สุดคือของญี่ปุ่นค่ะ มีขายปลีกที่ร้านฮงฮวด (อีกแล้ว....พี่หมีปล่าวเป็นตัวแทนของฮงฮวดนะคะ) ราคาขายปลีกอยู่ที่ น่าจะ ...ไม่ต่ำกว่า 120 บาท แต่ที่ฮงฮวด เค้าจะเรียกว่า มัลติแวกซ์นะคะ คุณภาพดีมาก ขาวสวย ไม่มีกลิ่นเลยค่ะ
ของพี่หมีไม่ได้ใช้ตัวนี้หรอก เพราะแพงเกินไปสำหรับทำขายอ่ะค่ะ แต่ถ้าน้องๆ ทำใช้เอง หรือทำแจกเพื่อน ใช้ตัวนี้แหละค่ะ สวยที่สุดแล้ว
ประโยชน์ของไมโครแว๊กซ์ ก็ใช้ผสมกับพาราฟิน เพื่อยึดโครงสร้างของพาราฟินให้เหนียว เรียบ ปั้นง่าย ยืดง่าย
ใช้ผสมประมาณ 10-20 % ของพาราฟินค่ะ
3. สีน้ำมันผง
ใช้ผสมกับน้ำเทียนเพื่อให้เทียนมีสีสวย.....มีขายที่ฮงฮวด (อีกแล้ว) ซองละ 10 บาทค่ะ แต่บางสีที่นี่ไม่มีขาย อย่างเช่นสีม่วง สีชมพู พี่หมีต้องสั่งจาก บริษัทนำเข้าโดยเฉพาะ หรือผู้อ่านจะผสมเองตามทฤษฎีสีก็ได้ค่ะ.....
อ้อ.....การทำสีสวยให้เทียนแบบง่ายๆ อีกอย่างก็คือ ซื้อสีเทียนที่เด็กๆ เค้าเรียนวิชาวาดเขียนน่ะค่ะ เอามาหักละลายผสมกับเทียนของเราก็ได้ หรือจะเอามาผสมแบบนั่นนิด นี่หน่อย เพื่อให้ได้เทียนสีสวยแปลกตาก็ได้ค่ะ ......ตามจินตนาการ เลยค่ะ น้องๆ........
4. น้ำหอมค่ะ
น้ำหอม ต้องซื้อแบบหัวน้ำหอมนะคะ น้ำหอมที่มีแอลกอฮอล์ผสมใช้ไม่ได้หรอกค่ะ .....ขืนใส่ไปน้ำเทียนเดือด อาจกระเด็นโดนคนทำก็ได้
เพราะฉนั้น....ต้องแน่ใจว่าเป็นหัวน้ำหอม หรือน้ำมันหอมนะคะ หาซื้อได้สำเพ็ง เยาวราช มีหลายร้านค่ะ
น้ำหอม มีหลายกลิ่นให้เลือก เช่น กลิ่นดอกไม้ กุหลาบ มะลิ กล้วยไม้ เยอะแยะเลยค่ะ กลิ่นผลไม้ก็มีนะคะ กลิ่นส้ม มะนาว .....หรือกลิ่นพวกอะโรม่าก็มี เช่นโรสแมรี่ เป๊บเปอร์มิ้นท์ ลาเวนเดอร์ แล้วแต่ชอบเลย ......
ของพี่หมีเองก็ซื้อจากหลายที่ค่ะ หลายบริษัท แล้วแต่ว่าชอบกลิ่นไหน บางทีเลือกดมจนจมูกชาเลยค่ะ .......
ราคาอยู่ที่ ออนซ์ละ 40- 200 บาทค่ะ แล้วแต่กลิ่น ออนซ์นึง มี 28 ซีซีนะคะ
5. ไส้เทียน
ไส้เทียนมีหลายชนิด หลายขนาดมาก แล้วแต่การใช้งานค่ะ........
ไส้เทียนมีทั้งไส้กลม ไส้แบน ไส้กระดาษ(หมายถึงสอดกระดาษไว้ข้างในค่ะ) ไส้ลวด (หมายถึงสอดลวดบางๆไว้ในไส้เทียน) แล้วแต่งาน....แล้วแต่ลูกค้าน่ะค่ะ
ของพี่หมีจะใช้ไส้รุ่น GK เป็นไส้แบนๆ พี่หมีเทสต์แล้วรู้สึกว่าจุดดีค่ะ
ไส้ไทยก็มีนะคะ เป็นฝ้ายดิบแท้ๆ....บางที่ก็แอบผสมไนล่อน จุดควันเยอะค่ะ พี่เคยใช้แล้วคุณภาพไม่สม่ำเสมอเลยค่ะ จุดติดมั่ง ดับมั่ง....เสียลูกค้ารายใหญ่ๆไปสองสามรายเลยล่ะ (ช้ำใจที่สุด)
......แต่ไม่ใช่ไส้ไทยที่เป็นฝ้ายจะไม่ดีเสมอไปนะคะ เผอิญพี่หมียังไม่เจอเจ้าที่คุณภาพดีๆ เท่านั้นเอง ....ผู้ผลิตไส้เทียนอย่าเคืองพี่หมีนะเออ....ค่ะ.....
ราคาของไส้เทียน ถ้าเป็นไส้ฝ้าย ก็ขายเป็นมัด ไม่เกิน 100 บาท......
ส่วนของพี่หมีสั่งมาเป็นม้วนตามรูป (อ๊ะๆ...ม้วนใหญ่กว่านี้ค่ะ ตามรูปน่ะใช้เกือบหมดแล้ว แหะๆ...) ราคาม้วนละประมาณ 2000-3000 บาทค่ะ......เดี๋ยว....ใครที่อยากหัดทำอย่าเพิ่งตกใจไปค่ะ ว่า...โอ้โฮ...ต้องลงทุนเยอะขนาดนี้เลยเหรอ......จะบอกเพิ่มเติมว่า....บางที่เค้าขายปลีกกัน ก็แบ่งขายเป็นเส้น ราคาเส้นละ 2-3 บาทเองค่ะ (1 เมตร) ที่จตุจักรมีแบ่งขายเยอะแยะค่ะ........
6. พิมพ์ตัด
พิมพ์ตัดนี่มีเยอะแยะมากมายค่ะ แล้วแต่ว่าเราจะปั้นดอกอะไร.....พิมพ์ตัด ทำมาจาก สแตนเลส อลูมิเนียม พลาสติก ไม้ อะไรก็ได้ค่ะ เอามากดตัดเทียนให้เป็นรูปอย่างที่เราต้องการ
.......สามารถหาซื้อได้ตามร้านที่ขายอุปกรณ์เกี่ยวกับปั้นดินญี่ปุ่นน่ะค่ะ หรือถ้าใครอยู่ต่างจังหวัดก็ลองไปดูร้านขายอุปกรณ์เค้กก็ได้ค่ะ.....ซื้อพิมพ์ตัดคุ้กกี้นั่นแหละ .....แค่พิมพ์หยดน้ำตัวเดียวก็ปั้นได้สารพัดดอกแล้ว
ของพี่หมีสั่งทำเอง.....เพราะเวลาไปซื้อที่ร้าน มักได้เป็นชุดใบเล็กใบใหญ่ ชุดกลีบเลี้ยง ซึ่งไม่ได้ใช้.....ซื้อมา 1 ชุด มี 6 ชิ้น ใช้ได้ชิ้นเดียว .....พี่หมีก็เลยสั่งทำเอาเองมากกว่า........ชิ้นละประมาณ 60 - 100 บาทค่ะ แล้วแต่ขนาด
อ้อ....ลืมบอกไปอีกอย่าง....ใครที่หัดทำเอง ไม่ต้องใช้พิมพ์ตัดก็ได้นะคะ ใช้คัตเตอร์ หรือกรรไกรตัดกลีบเองก็เวิร์คค่ะ ช้าหน่อย ....แต่ไม่เสียตังค์.... อิอิ....พี่หมีทำบ่อยเวลาขึ้นตัวอย่างให้ลูกค้า และเวลาซื้อพิมพ์ไม่ทัน
7. พิมพ์กดลาย
ทำมาจากเรซิ่นค่ะ ใช้สำหรับทำลายเส้น ลายใบสวยๆ ให้กับดอกไม้เทียน หาซื้อได้ตามสวนจตุจักร ร้านขายอุปกรณ์ปั้นดินญี่ปุ่น หรือ....ใช้ของจริงก็ได้ค่ะ พวกใบบัว ใบลีลาวดี ที่มีลายแข็งๆ ชัดๆ ก็ใช้ได้ ....สำหรับการฝึกหัดเท่านั้นนะคะ......ถ้าทำขายต้องใช้เรซิ่น ใช้ทนใช้นาน.... ราคาไม่แพง อันละประมาณ 60-100 บาท แล้วแต่ขนาดเล็กใหญ่
ตัวอย่างลายดอกชบาค่ะ
ใครทำขายแล้วใช้ลายจากใบไม้จริง .....สงสัยต้องไปเก็บใบไม้มาเป็นกระบุงแน่ๆ ....ใบไม้จริงมันช้ำง่ายน่ะค่ะ
ของพี่หมีก็ซื้อบ้าง ทำเองบ้าง...เพราะลูกน้องหลายคน ต้องใช้หลายอันต่อหนึ่งแบบ ขืนซื้อเองทั้งหมดตายแน่ค่ะ
อันสีขาวทึบในรูปนั่นแหละ...พี่หมีทำเอง สวยน้อยหน่อย แต่ใช้ได้ดีนะคะ
เท่านี้ค่ะ วัตถุดิบจำเป็นสำหรับการทำเทียน ที่ต้องซื้อหา ส่วนใหญ่มีขายที่สวนจตุจักร สำเพ็ง เยาวราช
ถ้าอยู่ต่างจังหวัด ไม่สะดวกหาซื้อเอง เมล์มาก็ได้ค่ะ เดี๋ยวพี่หมีจัดเป็นชุดส่งไปรษณีย์ ไปให้ตามที่อยู่นะคะ......
เอาล่ะค่ะ....ทีนี้ก็เป็นวัสดุอุปกรณ์ ที่หาได้ง่ายๆ ในการทำเทียนค่ะ
1. หม้อสำหรับละลายเทียน
ใช้หม้อแกง หม้อมือถือ หม้อแสตนเลส หม้ออลูมิเนียมได้ทั้งนั้น.... ใครจะหรูใช้หม้อแก้วทนไฟก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ จะตั้งไฟโดยตรงก็ได้ หรือถ้าให้ปลอดภัย ก็ใช้เป็นดับเบิ้ลบอยเลอร์ (double boiler) .....เอาง่ายๆ ก็ ละลายในหม้อหุงข้าว(ใบเก่านะคะ) หรือกระทะไฟฟ้าก็ได้ค่ะ.....จะละลายให้ทุกคนดูในบทต่อไปนะคะ
2. เตาแก๊ส เตาไฟฟ้า หรือเตาถ่านก็ได้ค่ะ
เลือกเอาเตาที่สามารถปรับไฟอ่อน ไฟแก่ได้ดีกว่าค่ะ เพราะ การทำเทียนใช้ไฟกลาง และไฟอ่อนค่ะ ..... เตาถ่านก็ใช้ได้จริงๆ นะคะ (สมาชิกที่เอาไปทำที่บ้าน บางคนยังใช้เตาถ่านเลยค่ะ) แต่ต้องโรยขี้เถ้าให้ไฟอ่อน และปิดฝาหม้อด้วยค่ะ เดี๋ยวขี้เถ้าปลิวลงในหม้อเทียน จากสวยแล้ว จะกลายเป็น "สวยเลอะ" ไปนะคะ.......
3. กระบวย
ก็เอาไว้ตักน้ำเทียนนั่นแหละค่ะ....กระบวยเค้าเอาไปใช้อย่างอื่นได้ด้วยเหรอ...(นั่น!...กวนซะแล้ว พี่หมี)
อย่าใช้กระบวยพลาสติกนะคะ ....เดี๋ยวละลายไปพร้อมกับเทียน ทีนี้ล่ะสวยเลย
ใช้กระบวยอลูมิเนียมนั่นแหละค่ะ อันละ 10-20 บาทเอง.......
4. หม้อที่ใบเล็กกว่าหม้อข้อ 1.
....อันนี้พี่หมีไม่ได้กวนค่ะ..... ต้องมีหม้อที่ใบเล็กกว่าจริงๆ สำหรับแบ่งน้ำเทียนใสจากหม้อข้อ 1. มาผสมสีให้สวยในหม้อข้อ 4.
ใครอยากได้ 7 สี ก็ไม่ต้องหาทั้ง 7 หม้อหรอกนะคะ ....ก็ใช้หม้อเดิมนั่นแหละ ทำทีละสีไปค่ะ.....
ใครไม่อยากทำน้ำเทียนสี ก็ใช้หม้อข้อ 1. หม้อเดียว แล้วเอาเทียนไปชุบสีทีหลังก็ได้ค่ะ....เดี๋ยวจะบอกวิธีในบทถัดไป.......
5. ถ้วยนึ่งข้าว
โอ้!....นี่พี่หมีชวนทำเทียนหรือทำกับข้าวกันแน่คะเนี่ย.....
ก็....ชวนทำเทียนนี่แหละค่ะ แหม...(แอบค้อน)
ถ้วยนึ่งข้าวถ้วยเล็กๆ เอาไว้ผสมน้ำเทียนสี เพื่อนำเทียนขาวที่เราตัดเป็นกลีบแล้ว มาจุ่มสีให้สวยไงคะ .....วิธีนี้เราจะได้กลีบดอกไม้ที่มี 2-3 สีในกลีบเดียวกันได้เลยล่ะ ดูรูปได้เลยค่ะ
ส่วนรูปนี้เป็นแบบจุ่มสีเดียวค่ะ
......เห็นความแตกต่างหรือยังคะ ...ความจริงสามสีก็ทำได้นะคะ แล้วแต่จินตนาการเลยค่ะ
สรุปว่า.... ถ้วยนึ่งข้าวควรหาไว้ซักสี่ห้าใบนะคะ ใบละ 8-10 บาทเองค่ะ ตามร้านเครื่องครัวทั่วไป
ถ้าต้องการประหยัด สำหรับการฝึกหัด..... ก็ไปซื้อผักกาดกระป๋องที่ทานกับข้าวต้มอ่ะค่ะ .....ทานข้างในให้หมด (หรือใครจะควักเก็บใส่ถ้วยไว้กินวันหลังก็ได้นะ)แล้วเอากระป๋องมาล้างให้สะอาด แล้วเช็ดให้แห้ง ใช้แทนถ้วยนึ่งข้าวก็ได้ค่ะ
แต่พี่หมีไม่รู้นะ....แบบไหนจะประหยัดกว่ากัน อิอิอิ....
(วันที่โพสต์ 28 กย. 2554)
6. แผ่นกระจก แผ่นฟอร์ไมก้า หรือแผ่นกระเบื้องเรียบ
เอาไว้สำหรับ เทเทียนให้เป็นแผ่นน่ะค่ะ ผิวหน้าต้องเรียบนะคะ .....พี่หมีเองเคยใช้กระจกเหมือนกัน แต่แตกทุกวันเลยค่ะ เลยเปลี่ยนมาใช้กระเบื้อง ถูก หาง่าย ผิวเรียบดีค่ะ
ใช้แผ่นกว้างๆ หน่อยนะคะ โดยเฉพาะผู้ที่คิดทำเป็นอาชีพ ควรใช้กระเบื้องกว้างไม่ต่ำกว่า 18 นิ้ว.....
อ้อ....อย่าแผลงไปเอากระเบื้องปูพื้นห้องน้ำมาเชียวนะคะ ....เวลาซื้อ เอามือลูบผิวกระเบื้องดู ให้ลื่นๆ มันวับๆ...นั่นแหละค่ะ ใช้ได้เลย
ใครที่ฝึกทำ ซื้อมาแผ่นเดียวก่อนนะคะ ....ใครที่คิดทำเป็นอาชีพ ก็ซื้อมาแผ่นเดียวก่อนค่ะ.... มั่นใจแล้วค่อยซื้อเพิ่มอีกที
ตอนนี้ของพี่หมีเองใช้กระเบื้อง และหินแกรนิตขัดมันค่ะ....
7. ไม้บรรทัดไม้หนาๆ หรือเหล็กแป๊บ หรือไม้อะไรซักอย่างที่คล้ายไม้บรรทัดอ่ะค่ะ
ตัดให้ความยาวประมาณ 12 - 14 นิ้วก็ใช้ได้เลย ทำไว้ 4 อันนะคะเอาไว้เป็นกรอบกั้นน้ำเทียนสี่ด้าน เวลาเทน้ำเทียนค่ะ
น้ำเทียนก็จะได้เป็นแผ่นเทียนบางๆ ไงคะ
ของพี่หมีทำเป็นอาชีพ ก็เลยใช้เหล็กแป๊บ เชื่อมต่อกันเป็นกรอบสี่เหลี่ยมอ่ะค่ะ ทำงานไวดี อิอิอิ.....
8. กะละมังพลาสติก แก้ว อลูมิเนียม หรือกะละมังอะไรก็ได้ค่ะ
ไม่ต้องใหญ่ขนาดกะละมังซักผ้าหรอกนะคะ เอาประมาณซัก เอ่อ....ใหญ่กว่าชามก๋วยเตี๋ยวหน่อยนึงก็แล้วกัน
หาเอาในบ้านนั่นแหละค่ะ ไม่ต้องซื้อ.....
กะละมังเอาไว้แช่ดอกไม้เทียนทียังอุ่นๆ ให้มันเย็นตัวน่ะค่ะ เทียนเราจะได้ไม่บิดเบี้ยว โย้เย้ไปเสียก่อน
อย่างในรูปเนี่ยค่ะ ....พี่หมีใช้กะละมังสีชมพูแปร๋นเลย
เท่านี้แหละค่ะ อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ นอกนั้นก็เป็นอุปกรณ์ตกแต่งทั้งหลาย เช่น มีด ช้อน กรรไกร ไม้จิ้มฟัน
เดี๋ยวบทถัดไป พี่หมีจะพาไปละลายเทียน ทำเทียนให้เป็นแผ่น ตัดเทียนเป็นกลีบ ละลายน้ำสีสำหรับจุ่ม และเตรียมไส้เทียนกันค่ะ...... (โพสต์วันที่ 29 กย. 2554)
<a href="http://www.hypersmash.com/hostgator/" id="mL720">hostgator promotion code</a>
1. ฟูลลี่พาราฟิน
ฟูลลี่พาราฟินที่เจ๋งที่สุดก็มีขายอยู่ที่ร้านฮงฮวด สี่แยกวัดตึกน่ะค่ะ แพงหน่อย ...แต่ดีมาก ใส สวย ไม่มีกลิ่นน้ำมันเลย เวลาผสมน้ำหอมลงไป จะหอมมาก แถมสะอาด ไม่มีตะกอนสกปรก ไม่ปริแตกง่าย ดอกไม้เทียนของเราจะพริ้วสวย บางได้อย่างที่ต้องการเลยล่ะค่ะ.....
ราคากิโลกรัมละ น่าจะอยู่ที่ 80-90 บาท.....พี่หมีไม่แม่นนะคะ เพราะไม่ได้ซื้อของสเป็คนี้ มันแพงเกินไปสำหรับทำขายค่ะ........
ของพี่หมีใช้ของจีน ซื้อจากบริษัทที่นำเข้ามาโดยตรง สวยใสเหมือนกัน ราคาถูกกว่า แต่มีตะกอนเล็กน้อยเท่านั้นค่ะ ........
2. ไมโครแว๊กซ์ ตามรูปข้างบนน่ะค่ะ
ตัวนี้มีหลายสเป็คมาก มาจากหลายประเทศ ทั้งจีน เสปน ญี่ปุ่น ตัวที่ดีที่สุดคือของญี่ปุ่นค่ะ มีขายปลีกที่ร้านฮงฮวด (อีกแล้ว....พี่หมีปล่าวเป็นตัวแทนของฮงฮวดนะคะ) ราคาขายปลีกอยู่ที่ น่าจะ ...ไม่ต่ำกว่า 120 บาท แต่ที่ฮงฮวด เค้าจะเรียกว่า มัลติแวกซ์นะคะ คุณภาพดีมาก ขาวสวย ไม่มีกลิ่นเลยค่ะ
ของพี่หมีไม่ได้ใช้ตัวนี้หรอก เพราะแพงเกินไปสำหรับทำขายอ่ะค่ะ แต่ถ้าน้องๆ ทำใช้เอง หรือทำแจกเพื่อน ใช้ตัวนี้แหละค่ะ สวยที่สุดแล้ว
ประโยชน์ของไมโครแว๊กซ์ ก็ใช้ผสมกับพาราฟิน เพื่อยึดโครงสร้างของพาราฟินให้เหนียว เรียบ ปั้นง่าย ยืดง่าย
ใช้ผสมประมาณ 10-20 % ของพาราฟินค่ะ
3. สีน้ำมันผง
ใช้ผสมกับน้ำเทียนเพื่อให้เทียนมีสีสวย.....มีขายที่ฮงฮวด (อีกแล้ว) ซองละ 10 บาทค่ะ แต่บางสีที่นี่ไม่มีขาย อย่างเช่นสีม่วง สีชมพู พี่หมีต้องสั่งจาก บริษัทนำเข้าโดยเฉพาะ หรือผู้อ่านจะผสมเองตามทฤษฎีสีก็ได้ค่ะ.....
อ้อ.....การทำสีสวยให้เทียนแบบง่ายๆ อีกอย่างก็คือ ซื้อสีเทียนที่เด็กๆ เค้าเรียนวิชาวาดเขียนน่ะค่ะ เอามาหักละลายผสมกับเทียนของเราก็ได้ หรือจะเอามาผสมแบบนั่นนิด นี่หน่อย เพื่อให้ได้เทียนสีสวยแปลกตาก็ได้ค่ะ ......ตามจินตนาการ เลยค่ะ น้องๆ........
4. น้ำหอมค่ะ
น้ำหอม ต้องซื้อแบบหัวน้ำหอมนะคะ น้ำหอมที่มีแอลกอฮอล์ผสมใช้ไม่ได้หรอกค่ะ .....ขืนใส่ไปน้ำเทียนเดือด อาจกระเด็นโดนคนทำก็ได้
เพราะฉนั้น....ต้องแน่ใจว่าเป็นหัวน้ำหอม หรือน้ำมันหอมนะคะ หาซื้อได้สำเพ็ง เยาวราช มีหลายร้านค่ะ
น้ำหอม มีหลายกลิ่นให้เลือก เช่น กลิ่นดอกไม้ กุหลาบ มะลิ กล้วยไม้ เยอะแยะเลยค่ะ กลิ่นผลไม้ก็มีนะคะ กลิ่นส้ม มะนาว .....หรือกลิ่นพวกอะโรม่าก็มี เช่นโรสแมรี่ เป๊บเปอร์มิ้นท์ ลาเวนเดอร์ แล้วแต่ชอบเลย ......
ของพี่หมีเองก็ซื้อจากหลายที่ค่ะ หลายบริษัท แล้วแต่ว่าชอบกลิ่นไหน บางทีเลือกดมจนจมูกชาเลยค่ะ .......
ราคาอยู่ที่ ออนซ์ละ 40- 200 บาทค่ะ แล้วแต่กลิ่น ออนซ์นึง มี 28 ซีซีนะคะ
5. ไส้เทียน
ไส้เทียนมีหลายชนิด หลายขนาดมาก แล้วแต่การใช้งานค่ะ........
ไส้เทียนมีทั้งไส้กลม ไส้แบน ไส้กระดาษ(หมายถึงสอดกระดาษไว้ข้างในค่ะ) ไส้ลวด (หมายถึงสอดลวดบางๆไว้ในไส้เทียน) แล้วแต่งาน....แล้วแต่ลูกค้าน่ะค่ะ
ของพี่หมีจะใช้ไส้รุ่น GK เป็นไส้แบนๆ พี่หมีเทสต์แล้วรู้สึกว่าจุดดีค่ะ
ไส้ไทยก็มีนะคะ เป็นฝ้ายดิบแท้ๆ....บางที่ก็แอบผสมไนล่อน จุดควันเยอะค่ะ พี่เคยใช้แล้วคุณภาพไม่สม่ำเสมอเลยค่ะ จุดติดมั่ง ดับมั่ง....เสียลูกค้ารายใหญ่ๆไปสองสามรายเลยล่ะ (ช้ำใจที่สุด)
......แต่ไม่ใช่ไส้ไทยที่เป็นฝ้ายจะไม่ดีเสมอไปนะคะ เผอิญพี่หมียังไม่เจอเจ้าที่คุณภาพดีๆ เท่านั้นเอง ....ผู้ผลิตไส้เทียนอย่าเคืองพี่หมีนะเออ....ค่ะ.....
ราคาของไส้เทียน ถ้าเป็นไส้ฝ้าย ก็ขายเป็นมัด ไม่เกิน 100 บาท......
ส่วนของพี่หมีสั่งมาเป็นม้วนตามรูป (อ๊ะๆ...ม้วนใหญ่กว่านี้ค่ะ ตามรูปน่ะใช้เกือบหมดแล้ว แหะๆ...) ราคาม้วนละประมาณ 2000-3000 บาทค่ะ......เดี๋ยว....ใครที่อยากหัดทำอย่าเพิ่งตกใจไปค่ะ ว่า...โอ้โฮ...ต้องลงทุนเยอะขนาดนี้เลยเหรอ......จะบอกเพิ่มเติมว่า....บางที่เค้าขายปลีกกัน ก็แบ่งขายเป็นเส้น ราคาเส้นละ 2-3 บาทเองค่ะ (1 เมตร) ที่จตุจักรมีแบ่งขายเยอะแยะค่ะ........
6. พิมพ์ตัด
พิมพ์ตัดนี่มีเยอะแยะมากมายค่ะ แล้วแต่ว่าเราจะปั้นดอกอะไร.....พิมพ์ตัด ทำมาจาก สแตนเลส อลูมิเนียม พลาสติก ไม้ อะไรก็ได้ค่ะ เอามากดตัดเทียนให้เป็นรูปอย่างที่เราต้องการ
.......สามารถหาซื้อได้ตามร้านที่ขายอุปกรณ์เกี่ยวกับปั้นดินญี่ปุ่นน่ะค่ะ หรือถ้าใครอยู่ต่างจังหวัดก็ลองไปดูร้านขายอุปกรณ์เค้กก็ได้ค่ะ.....ซื้อพิมพ์ตัดคุ้กกี้นั่นแหละ .....แค่พิมพ์หยดน้ำตัวเดียวก็ปั้นได้สารพัดดอกแล้ว
ของพี่หมีสั่งทำเอง.....เพราะเวลาไปซื้อที่ร้าน มักได้เป็นชุดใบเล็กใบใหญ่ ชุดกลีบเลี้ยง ซึ่งไม่ได้ใช้.....ซื้อมา 1 ชุด มี 6 ชิ้น ใช้ได้ชิ้นเดียว .....พี่หมีก็เลยสั่งทำเอาเองมากกว่า........ชิ้นละประมาณ 60 - 100 บาทค่ะ แล้วแต่ขนาด
อ้อ....ลืมบอกไปอีกอย่าง....ใครที่หัดทำเอง ไม่ต้องใช้พิมพ์ตัดก็ได้นะคะ ใช้คัตเตอร์ หรือกรรไกรตัดกลีบเองก็เวิร์คค่ะ ช้าหน่อย ....แต่ไม่เสียตังค์.... อิอิ....พี่หมีทำบ่อยเวลาขึ้นตัวอย่างให้ลูกค้า และเวลาซื้อพิมพ์ไม่ทัน
7. พิมพ์กดลาย
ทำมาจากเรซิ่นค่ะ ใช้สำหรับทำลายเส้น ลายใบสวยๆ ให้กับดอกไม้เทียน หาซื้อได้ตามสวนจตุจักร ร้านขายอุปกรณ์ปั้นดินญี่ปุ่น หรือ....ใช้ของจริงก็ได้ค่ะ พวกใบบัว ใบลีลาวดี ที่มีลายแข็งๆ ชัดๆ ก็ใช้ได้ ....สำหรับการฝึกหัดเท่านั้นนะคะ......ถ้าทำขายต้องใช้เรซิ่น ใช้ทนใช้นาน.... ราคาไม่แพง อันละประมาณ 60-100 บาท แล้วแต่ขนาดเล็กใหญ่
ตัวอย่างลายดอกชบาค่ะ
ใครทำขายแล้วใช้ลายจากใบไม้จริง .....สงสัยต้องไปเก็บใบไม้มาเป็นกระบุงแน่ๆ ....ใบไม้จริงมันช้ำง่ายน่ะค่ะ
ของพี่หมีก็ซื้อบ้าง ทำเองบ้าง...เพราะลูกน้องหลายคน ต้องใช้หลายอันต่อหนึ่งแบบ ขืนซื้อเองทั้งหมดตายแน่ค่ะ
อันสีขาวทึบในรูปนั่นแหละ...พี่หมีทำเอง สวยน้อยหน่อย แต่ใช้ได้ดีนะคะ
เท่านี้ค่ะ วัตถุดิบจำเป็นสำหรับการทำเทียน ที่ต้องซื้อหา ส่วนใหญ่มีขายที่สวนจตุจักร สำเพ็ง เยาวราช
ถ้าอยู่ต่างจังหวัด ไม่สะดวกหาซื้อเอง เมล์มาก็ได้ค่ะ เดี๋ยวพี่หมีจัดเป็นชุดส่งไปรษณีย์ ไปให้ตามที่อยู่นะคะ......
เอาล่ะค่ะ....ทีนี้ก็เป็นวัสดุอุปกรณ์ ที่หาได้ง่ายๆ ในการทำเทียนค่ะ
1. หม้อสำหรับละลายเทียน
ใช้หม้อแกง หม้อมือถือ หม้อแสตนเลส หม้ออลูมิเนียมได้ทั้งนั้น.... ใครจะหรูใช้หม้อแก้วทนไฟก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ จะตั้งไฟโดยตรงก็ได้ หรือถ้าให้ปลอดภัย ก็ใช้เป็นดับเบิ้ลบอยเลอร์ (double boiler) .....เอาง่ายๆ ก็ ละลายในหม้อหุงข้าว(ใบเก่านะคะ) หรือกระทะไฟฟ้าก็ได้ค่ะ.....จะละลายให้ทุกคนดูในบทต่อไปนะคะ
2. เตาแก๊ส เตาไฟฟ้า หรือเตาถ่านก็ได้ค่ะ
เลือกเอาเตาที่สามารถปรับไฟอ่อน ไฟแก่ได้ดีกว่าค่ะ เพราะ การทำเทียนใช้ไฟกลาง และไฟอ่อนค่ะ ..... เตาถ่านก็ใช้ได้จริงๆ นะคะ (สมาชิกที่เอาไปทำที่บ้าน บางคนยังใช้เตาถ่านเลยค่ะ) แต่ต้องโรยขี้เถ้าให้ไฟอ่อน และปิดฝาหม้อด้วยค่ะ เดี๋ยวขี้เถ้าปลิวลงในหม้อเทียน จากสวยแล้ว จะกลายเป็น "สวยเลอะ" ไปนะคะ.......
3. กระบวย
ก็เอาไว้ตักน้ำเทียนนั่นแหละค่ะ....กระบวยเค้าเอาไปใช้อย่างอื่นได้ด้วยเหรอ...(นั่น!...กวนซะแล้ว พี่หมี)
อย่าใช้กระบวยพลาสติกนะคะ ....เดี๋ยวละลายไปพร้อมกับเทียน ทีนี้ล่ะสวยเลย
ใช้กระบวยอลูมิเนียมนั่นแหละค่ะ อันละ 10-20 บาทเอง.......
4. หม้อที่ใบเล็กกว่าหม้อข้อ 1.
....อันนี้พี่หมีไม่ได้กวนค่ะ..... ต้องมีหม้อที่ใบเล็กกว่าจริงๆ สำหรับแบ่งน้ำเทียนใสจากหม้อข้อ 1. มาผสมสีให้สวยในหม้อข้อ 4.
ใครอยากได้ 7 สี ก็ไม่ต้องหาทั้ง 7 หม้อหรอกนะคะ ....ก็ใช้หม้อเดิมนั่นแหละ ทำทีละสีไปค่ะ.....
ใครไม่อยากทำน้ำเทียนสี ก็ใช้หม้อข้อ 1. หม้อเดียว แล้วเอาเทียนไปชุบสีทีหลังก็ได้ค่ะ....เดี๋ยวจะบอกวิธีในบทถัดไป.......
5. ถ้วยนึ่งข้าว
โอ้!....นี่พี่หมีชวนทำเทียนหรือทำกับข้าวกันแน่คะเนี่ย.....
ก็....ชวนทำเทียนนี่แหละค่ะ แหม...(แอบค้อน)
ถ้วยนึ่งข้าวถ้วยเล็กๆ เอาไว้ผสมน้ำเทียนสี เพื่อนำเทียนขาวที่เราตัดเป็นกลีบแล้ว มาจุ่มสีให้สวยไงคะ .....วิธีนี้เราจะได้กลีบดอกไม้ที่มี 2-3 สีในกลีบเดียวกันได้เลยล่ะ ดูรูปได้เลยค่ะ
ส่วนรูปนี้เป็นแบบจุ่มสีเดียวค่ะ
......เห็นความแตกต่างหรือยังคะ ...ความจริงสามสีก็ทำได้นะคะ แล้วแต่จินตนาการเลยค่ะ
สรุปว่า.... ถ้วยนึ่งข้าวควรหาไว้ซักสี่ห้าใบนะคะ ใบละ 8-10 บาทเองค่ะ ตามร้านเครื่องครัวทั่วไป
ถ้าต้องการประหยัด สำหรับการฝึกหัด..... ก็ไปซื้อผักกาดกระป๋องที่ทานกับข้าวต้มอ่ะค่ะ .....ทานข้างในให้หมด (หรือใครจะควักเก็บใส่ถ้วยไว้กินวันหลังก็ได้นะ)แล้วเอากระป๋องมาล้างให้สะอาด แล้วเช็ดให้แห้ง ใช้แทนถ้วยนึ่งข้าวก็ได้ค่ะ
แต่พี่หมีไม่รู้นะ....แบบไหนจะประหยัดกว่ากัน อิอิอิ....
(วันที่โพสต์ 28 กย. 2554)
6. แผ่นกระจก แผ่นฟอร์ไมก้า หรือแผ่นกระเบื้องเรียบ
เอาไว้สำหรับ เทเทียนให้เป็นแผ่นน่ะค่ะ ผิวหน้าต้องเรียบนะคะ .....พี่หมีเองเคยใช้กระจกเหมือนกัน แต่แตกทุกวันเลยค่ะ เลยเปลี่ยนมาใช้กระเบื้อง ถูก หาง่าย ผิวเรียบดีค่ะ
ใช้แผ่นกว้างๆ หน่อยนะคะ โดยเฉพาะผู้ที่คิดทำเป็นอาชีพ ควรใช้กระเบื้องกว้างไม่ต่ำกว่า 18 นิ้ว.....
อ้อ....อย่าแผลงไปเอากระเบื้องปูพื้นห้องน้ำมาเชียวนะคะ ....เวลาซื้อ เอามือลูบผิวกระเบื้องดู ให้ลื่นๆ มันวับๆ...นั่นแหละค่ะ ใช้ได้เลย
ใครที่ฝึกทำ ซื้อมาแผ่นเดียวก่อนนะคะ ....ใครที่คิดทำเป็นอาชีพ ก็ซื้อมาแผ่นเดียวก่อนค่ะ.... มั่นใจแล้วค่อยซื้อเพิ่มอีกที
ตอนนี้ของพี่หมีเองใช้กระเบื้อง และหินแกรนิตขัดมันค่ะ....
7. ไม้บรรทัดไม้หนาๆ หรือเหล็กแป๊บ หรือไม้อะไรซักอย่างที่คล้ายไม้บรรทัดอ่ะค่ะ
ตัดให้ความยาวประมาณ 12 - 14 นิ้วก็ใช้ได้เลย ทำไว้ 4 อันนะคะเอาไว้เป็นกรอบกั้นน้ำเทียนสี่ด้าน เวลาเทน้ำเทียนค่ะ
น้ำเทียนก็จะได้เป็นแผ่นเทียนบางๆ ไงคะ
ของพี่หมีทำเป็นอาชีพ ก็เลยใช้เหล็กแป๊บ เชื่อมต่อกันเป็นกรอบสี่เหลี่ยมอ่ะค่ะ ทำงานไวดี อิอิอิ.....
8. กะละมังพลาสติก แก้ว อลูมิเนียม หรือกะละมังอะไรก็ได้ค่ะ
ไม่ต้องใหญ่ขนาดกะละมังซักผ้าหรอกนะคะ เอาประมาณซัก เอ่อ....ใหญ่กว่าชามก๋วยเตี๋ยวหน่อยนึงก็แล้วกัน
หาเอาในบ้านนั่นแหละค่ะ ไม่ต้องซื้อ.....
กะละมังเอาไว้แช่ดอกไม้เทียนทียังอุ่นๆ ให้มันเย็นตัวน่ะค่ะ เทียนเราจะได้ไม่บิดเบี้ยว โย้เย้ไปเสียก่อน
อย่างในรูปเนี่ยค่ะ ....พี่หมีใช้กะละมังสีชมพูแปร๋นเลย
เท่านี้แหละค่ะ อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ นอกนั้นก็เป็นอุปกรณ์ตกแต่งทั้งหลาย เช่น มีด ช้อน กรรไกร ไม้จิ้มฟัน
เดี๋ยวบทถัดไป พี่หมีจะพาไปละลายเทียน ทำเทียนให้เป็นแผ่น ตัดเทียนเป็นกลีบ ละลายน้ำสีสำหรับจุ่ม และเตรียมไส้เทียนกันค่ะ...... (โพสต์วันที่ 29 กย. 2554)
<a href="http://www.hypersmash.com/hostgator/" id="mL720">hostgator promotion code</a>
วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2554
สอนคนอื่น...ไม่กลัวถูกแย่งอาชีพเหรอ...ใจกว้างจัง
สวัสดีค่ะ ... แหม...เจอหัวเรื่องแบบนี้ พี่หมีก็ได้แต่ยิ้ม ถามแบบนี้ก็ต้องตอบว่า "กลัว" ค่ะ....แต่นั่นเป็นคำตอบเมื่อ 10 กว่าปีก่อนนะคะ
ส่วนคำตอบ ณ วันนี้ ต้องขอบอกว่า ..."ไม่กลัวเลย" ค่ะ....ไม่ใช่ว่าเก่งกาจ กล้าหาญอะไรนักหรอก แต่เป็นเพราะพี่หมีเผชิญกับเรื่องนี้มาตลอดสิบกว่าปีที่ทำเทียน......
เรื่องมันเริ่มมาจากที่พี่หมีปั้นดอกไม้เทียน ส่งขายเข้าไปในตลาดจตุจักร.....สมัยนั้นก็เป็นที่ฮือฮาของตลาดมาก เพราะเทียนหอมรูปดอกไม้ในจตุจักร มีแต่เทียนดอกไม้ที่แกะออกมาจากพิมพ์ และ เทียนดอกลีลาวดีเท่านั้น......แต่พี่หมีออกแบบดอกไม้ใหม่ๆ เข้าไปในตลาดด้วย เช่นเทียนดอกกุหลาบ เทียนดอกชบา เทียนดอกทานตะวัน เทียนดอกบัว ก็ขายดีมากๆ ปั้นกันมือหงิกเลยล่ะค่ะ......เพราะคนปั้นดอกไม้เทียนมีน้อย งานก็เข้ามามาก ไม่เคยทำทัน... พี่หมีก็เลยต้องจ้างคนมาช่วย .....ตรงที่ต้องจ้างคนมาช่วยงานนี่แหละ....ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้
พอจ้างเค้ามา ก็ต้องสอนเค้าใช่ไหมคะ....คนรอบข้างก็ติงเหมือนกันค่ะ ว่า....สอนไปแล้วไม่กลัวเค้าเอาไปทำเองเหรอ....พี่หมีก็กลัวค่ะ .....แต่ถ้าอยากได้งานเพิ่ม อยากได้ดอกไม้เทียนเพิ่ม ก็ต้องขยายงาน ถ้ากลัวคนอื่นจะทำเป็น ก็คงต้องทำเองคนเดียว ซึ่งไม่มีทางเลยที่จะขยายงานให้เติบโตได้.....จริงไหมคะ....
มีอยู่วันหนึ่งไม่นานนัก ลูกน้องที่ปั้นได้เก่งมากๆ คนหนึ่งมาบอกว่า...ขอหยุดงานซักพัก เพราะว่าตั้งท้องได้ 3 เดือนแล้ว....พี่หมีก็ให้หยุด เค้าบอกว่าพอคลอดก็จะมาทำงานใหม่ พี่หมีก็โอเค....แน่นอนว่ายอดดอกไม้เทียนที่ทำส่งประจำสัปดาห์ต้องกระทบ แต่ไม่เป็นไร พี่หมียังมีลูกน้องช่วยอีกหลายคน.....
3 เดือนถัดมาพี่หมีเจอเค้าที่ตลาด ท้องเค้าไม่ได้โตขึ้น เค้าบอกว่าแท้ง....ก็แสดงความเสียใจไปกับเค้า บอกให้เค้ารักษาตัว พักผ่อนให้สบายใจเสียก่อนแล้วค่อยมาทำงานก็ได้ เค้าก็ขอบคุณ
ระหว่างนี้พี่หมีสังเกตว่า ลูกค้ารายใหญ่ของพี่หมีไม่สั่งดอกไม้เทียนเข้ามา แต่เค้ามีดอกไม้เทียนขาย และเป็นฝีมือของลูกน้องคนนี้เอง.....
พี่หมีก็งงว่าลูกน้องรู้จักลูกค้าคนนี้ได้อย่างไร เพราะเราอยู่ต่างจังหวัดค่ะ แล้วการเข้ากรุงเทพก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยสำหรับชาวบ้านที่นี่......
มาได้ความกระจ่างตรงที่ลูกน้องอีกคนเล่าให้ฟังว่า ....ตอนที่ลูกค้าคนนี้มาเยี่ยมพี่หมี มาขอดูงานที่บ้าน ประมาณว่ามาเที่ยวบ้านพี่หมีอ่ะค่ะ....เค้าได้แอบให้เบอร์โทรกับลูกน้องพี่หมี โดยเฉพาะคนที่เก่งๆ แล้วคุยติดต่อกันภายหลัง ที่บอกว่าท้องแล้วแท้งนั่นก็เป็นการวางแผนออกไปทำเอง....
พี่หมีก็....เฮิร์ทนะ ....จิตตก ....เจ็บปวด ...ผิดหวัง...เสียใจ....สารพัดความรู้สึกที่แย่ๆ ประเดประดังเข้ามา พี่หมีทำได้อย่างเดียวคือ...ทำใจ...
หลังจากมีคนที่หนึ่ง...ก็มีคนที่สอง...สาม...สี่....ลาออกไปทำเองอีกเรื่อยๆ เมื่อคนทำงานลดลง ....พี่หมีก็ไม่ยอมแพ้ ...ต้องจ้างคนเพิ่ม สอนคนเพิ่ม....และบางคนก็ลาออกไปทำเองอีก....อย่างนี้ไปเรื่อยๆ วนเป็นวัฎจักร ...เป็นล้อเกวียนที่หมุนมาทับรอยเดิม....
ไม่ต้องถามถึงความรู้สึกของพี่หมี ที่ต้องท่องคำว่า ทำใจ....บ่อยเสียจนเกิดการเรียนรู้ขึ้นมาว่า....มนุษย์ทุกคนย่อมต้องการความก้าวหน้า ต้องการดิ้นรนหาเลี้ยงชีพ.... พี่หมีจะมานั่งเสียใจ น้อยใจในโชคชะตาอยู่ทำไม ในเมื่อไม่สามารถไปห้าม ไปจับมัด ไปผูกให้เค้าอยู่กับเราได้
แทนที่พี่หมีจะมามัวผิดหวัง เสียใจ...... พี่หมีก็คิดมุมกลับ ว่าพี่หมีได้ทำกุศลให้กับคนหลายคน..... ให้เค้าได้มีอาชีพเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงครอบครัว.... ให้เค้าได้ทำงานที่บ้านไม่ต้องไปทำงานไกลๆ..... ให้เค้าได้มีที่ปรึกษาเวลาติดขัดปัญหา.... ให้เค้าได้มีวัตถุดิบใช้หรือให้ยืม โดยไม่ต้องไปซื้อไกล.....(บางคนขาดสีแค่ถุงเดียว ราคา 10 บาท ต้องนั่งรถไปซื้อถึงกรุงเทพ เสียเวลาทั้งวัน)
พอคิดได้ดังนี้....... พี่หมีก็ตั้งหน้า ตั้งตาสอนลูกน้องใหม่ๆ เพิ่มขึ้น และเริ่มงานเชิญของหน่วยงาน ราชการต่างๆ ให้ไปเป็นวิทยากรสอนปั้นดอกไม้เทียน ให้กับกลุ่มอาชีพ และกลุ่มแม่บ้าน ที่พี่หมีเคยปฎิเสธอย่างเด็ดขาด ตอนสมัยทำเทียนใหม่ๆ....พี่หมีคิดว่า คนที่ผ่านการสอนของพี่หมีมีไม่ต่ำกว่า 1000 คนแน่นอน.....
พอทำได้ดังนี้แล้ว ก็สบายใจมากขึ้นค่ะ ลูกน้องหลายคนก็มีออกไปทำเองบ้าง ไปดีๆ คุยกันก็ไม่มีปัญหาอะไร ขาดเหลืออะไรก็ให้มาเอา มายืม... งานน้อยก็มารับงานกับพี่หมีได้ ใครอยากอยู่กับพี่หมีก็อยู่ ใครอยากไปทำเองก็ไป...
แต่มีบางคนเหมือนกันค่ะ ที่ส่งคนของตัวเองมาหลอกให้พี่หมีสอน พอทำเป็นแล้วให้ไปทำที่เค้า จับไม่ได้ก็ไม่เป็นไร จับได้ก็สอนเหมือนกัน แต่จะฝากบอกไปนิดนึง ว่า....คนของเธอ เธอทำเป็น เธอก็ควรจะสอนเอง ไม่ใช่ส่งมาให้เราสอน.....
ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกค่ะ ว่ามีกรณีอย่างนี้ด้วย แต่สงสัยว่า ทำไมหลายคนมาสมัครงานกับเรา แล้วอาทิตย์เดียวลาออก.... พี่เจอเยอะมาก จนต้องสัมภาษณ์คนที่มาสมัครงานใหม่อย่างละเอียด ถึงได้รู้ความจริงว่า ....มาสมัครงานเพื่อหลอกให้พี่หมีสอนนั่นเอง
พี่หมีสอนลูกน้องของตัวเองฟรีก็จริง ....แต่ทำแบบนี้มันเอาเปรียบกันเกินไปค่ะ......
เอาล่ะค่ะ ......เหตุการณ์ที่พี่หมีเล่า ก็ผ่านไปนานแล้ว สำหรับตอนนี้ กุศลทั้งหลายที่เคยทำมาก็ส่งให้ผลให้เหมือนกันค่ะ.... มีกลุ่มแม่บ้าน มีลูกน้องเก่า มีลูกน้องของลูกน้อง มีคนที่ทำเทียนเป็นมารับงานกับพี่หมีมากมาย จนออร์เดอร์หนึ่งแสนชิ้น สามารถทำเสร็จได้ภายในเวลาแค่สองสัปดาห์น่ะค่ะ ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนไม่มีทางเป็นไปได้เลย.......ทำให้พี่หมีรับงานเยอะๆ ได้โดยไม่ต้องเป็นกังวลเลยค่ะ.......
อะแฮ่ม......เกริ่นมายาวมาก พี่หมียังไม่ได้ตอบคคำถามเลย "สอนคนอื่น ไม่กลัวถูกแย่งอาชีพเหรอ ใจกว้างจัง"
ขอตอบว่า ไม่กลัวค่ะ ....เพราะการปั้นดอกไม้เทียนมันมีข้อจำกัด ....ตรงที่ในวันหนึ่งๆ คนเราไม่สามารถปั้นเทียนให้เยอะๆ ได้ เพราะ..... นี่เป็นงานฝีมือ ไม่ใช่งานเครื่องจักร ที่จะปั๊มออกมาเท่าไหร่ก็ได้ งานฝีมือต้องใช้เวลา ใช้ความละเอียด ปราณีต ใช้สมาธิ งานจึงจะออกมาดี และสวย
เพราะฉนั้น งานปั้นดอกไม้เทียน จึงเป็นงานที่คนเยอะทำได้เยอะ คนน้อยทำได้น้อยค่ะ....
สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือ....งานปั้นดอกไม้เทียนฝีมือคนไทยสวยงาม อ่อนช้อย อย่างที่ชาติไหนก็สู้ไม่ได้ ใช้เทคโนโลยี่อะไรมาก็ช่วยให้เร็ว ให้สวยก็ไม่ได้ค่ะ..... ขึ้นอยู่กับฝีไม้ลายมืออย่างเดียวจริงๆ
งานดอกไม้เทียนของประเทศอื่นมีมั้ย.....มีค่ะ แต่ไม่สวย และไม่เป็นที่นิยมเท่าของไทย ความต้องการของตลาดยังมีสูงมากอยู่ และไม่มีทางหมดความนิยมไปง่ายๆ เพราะเป็นสินค้าที่ใช้แล้วหมดไป และต้องซื้อใหม่ .....
งานเทียนมีหลายประเภทค่ะ เช่น เทียนแท่ง เทียนก้อนสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม เทียนทีไลท์ ฯลฯ เทียนเหล่านี้ใช้เครื่องทำ ใช้พิมพ์ช่วย ซึ่งเทคโนโลยี่บางอย่างใช้ทุนสูง และสู้ประเทศอื่นไม่ได้ โดยเฉพาะประเทศจีนที่ก้าวไปไวมาก แต่ลองเสิร์ชคำว่า floating flower candle ดูสิคะ ว่าถ้ามีมากน้อยแค่ไหน ถ้า เทียบ votive หรือ pillar candle
ทำเทียนดอกไม้ให้สวย มีคุณภาพดี จุดได้จริง ยังไงก็รุ่งค่ะ สำหรับผู้ที่ต้องการทำเป็นอาชีพ....
สำหรับผู้ที่ต้องการ ทำแจกเป็นของขวัญ ทำใช้เอง ก็ลงทุนไม่มากค่ะ อุปกรณ์ต่างๆ ส่วนใหญ่ก็อยู่ในครัวนั่นเอง ลองหัดปั้นดูตามคลิปที่จะทยอยเอามาลงเรื่อยๆ นะคะ ทำใช้เอง หรือทำแจก ผู้รับก็ดีใจ..... ผู้ให้ก็จะยิ้มแย้ม จุดเทียนแล้ว แสงเทียนทำให้เกิดความสุนทรี และมีความสุขค่ะ
ส่วนคำตอบ ณ วันนี้ ต้องขอบอกว่า ..."ไม่กลัวเลย" ค่ะ....ไม่ใช่ว่าเก่งกาจ กล้าหาญอะไรนักหรอก แต่เป็นเพราะพี่หมีเผชิญกับเรื่องนี้มาตลอดสิบกว่าปีที่ทำเทียน......
เรื่องมันเริ่มมาจากที่พี่หมีปั้นดอกไม้เทียน ส่งขายเข้าไปในตลาดจตุจักร.....สมัยนั้นก็เป็นที่ฮือฮาของตลาดมาก เพราะเทียนหอมรูปดอกไม้ในจตุจักร มีแต่เทียนดอกไม้ที่แกะออกมาจากพิมพ์ และ เทียนดอกลีลาวดีเท่านั้น......แต่พี่หมีออกแบบดอกไม้ใหม่ๆ เข้าไปในตลาดด้วย เช่นเทียนดอกกุหลาบ เทียนดอกชบา เทียนดอกทานตะวัน เทียนดอกบัว ก็ขายดีมากๆ ปั้นกันมือหงิกเลยล่ะค่ะ......เพราะคนปั้นดอกไม้เทียนมีน้อย งานก็เข้ามามาก ไม่เคยทำทัน... พี่หมีก็เลยต้องจ้างคนมาช่วย .....ตรงที่ต้องจ้างคนมาช่วยงานนี่แหละ....ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้
พอจ้างเค้ามา ก็ต้องสอนเค้าใช่ไหมคะ....คนรอบข้างก็ติงเหมือนกันค่ะ ว่า....สอนไปแล้วไม่กลัวเค้าเอาไปทำเองเหรอ....พี่หมีก็กลัวค่ะ .....แต่ถ้าอยากได้งานเพิ่ม อยากได้ดอกไม้เทียนเพิ่ม ก็ต้องขยายงาน ถ้ากลัวคนอื่นจะทำเป็น ก็คงต้องทำเองคนเดียว ซึ่งไม่มีทางเลยที่จะขยายงานให้เติบโตได้.....จริงไหมคะ....
มีอยู่วันหนึ่งไม่นานนัก ลูกน้องที่ปั้นได้เก่งมากๆ คนหนึ่งมาบอกว่า...ขอหยุดงานซักพัก เพราะว่าตั้งท้องได้ 3 เดือนแล้ว....พี่หมีก็ให้หยุด เค้าบอกว่าพอคลอดก็จะมาทำงานใหม่ พี่หมีก็โอเค....แน่นอนว่ายอดดอกไม้เทียนที่ทำส่งประจำสัปดาห์ต้องกระทบ แต่ไม่เป็นไร พี่หมียังมีลูกน้องช่วยอีกหลายคน.....
3 เดือนถัดมาพี่หมีเจอเค้าที่ตลาด ท้องเค้าไม่ได้โตขึ้น เค้าบอกว่าแท้ง....ก็แสดงความเสียใจไปกับเค้า บอกให้เค้ารักษาตัว พักผ่อนให้สบายใจเสียก่อนแล้วค่อยมาทำงานก็ได้ เค้าก็ขอบคุณ
ระหว่างนี้พี่หมีสังเกตว่า ลูกค้ารายใหญ่ของพี่หมีไม่สั่งดอกไม้เทียนเข้ามา แต่เค้ามีดอกไม้เทียนขาย และเป็นฝีมือของลูกน้องคนนี้เอง.....
พี่หมีก็งงว่าลูกน้องรู้จักลูกค้าคนนี้ได้อย่างไร เพราะเราอยู่ต่างจังหวัดค่ะ แล้วการเข้ากรุงเทพก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยสำหรับชาวบ้านที่นี่......
มาได้ความกระจ่างตรงที่ลูกน้องอีกคนเล่าให้ฟังว่า ....ตอนที่ลูกค้าคนนี้มาเยี่ยมพี่หมี มาขอดูงานที่บ้าน ประมาณว่ามาเที่ยวบ้านพี่หมีอ่ะค่ะ....เค้าได้แอบให้เบอร์โทรกับลูกน้องพี่หมี โดยเฉพาะคนที่เก่งๆ แล้วคุยติดต่อกันภายหลัง ที่บอกว่าท้องแล้วแท้งนั่นก็เป็นการวางแผนออกไปทำเอง....
พี่หมีก็....เฮิร์ทนะ ....จิตตก ....เจ็บปวด ...ผิดหวัง...เสียใจ....สารพัดความรู้สึกที่แย่ๆ ประเดประดังเข้ามา พี่หมีทำได้อย่างเดียวคือ...ทำใจ...
หลังจากมีคนที่หนึ่ง...ก็มีคนที่สอง...สาม...สี่....ลาออกไปทำเองอีกเรื่อยๆ เมื่อคนทำงานลดลง ....พี่หมีก็ไม่ยอมแพ้ ...ต้องจ้างคนเพิ่ม สอนคนเพิ่ม....และบางคนก็ลาออกไปทำเองอีก....อย่างนี้ไปเรื่อยๆ วนเป็นวัฎจักร ...เป็นล้อเกวียนที่หมุนมาทับรอยเดิม....
ไม่ต้องถามถึงความรู้สึกของพี่หมี ที่ต้องท่องคำว่า ทำใจ....บ่อยเสียจนเกิดการเรียนรู้ขึ้นมาว่า....มนุษย์ทุกคนย่อมต้องการความก้าวหน้า ต้องการดิ้นรนหาเลี้ยงชีพ.... พี่หมีจะมานั่งเสียใจ น้อยใจในโชคชะตาอยู่ทำไม ในเมื่อไม่สามารถไปห้าม ไปจับมัด ไปผูกให้เค้าอยู่กับเราได้
แทนที่พี่หมีจะมามัวผิดหวัง เสียใจ...... พี่หมีก็คิดมุมกลับ ว่าพี่หมีได้ทำกุศลให้กับคนหลายคน..... ให้เค้าได้มีอาชีพเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงครอบครัว.... ให้เค้าได้ทำงานที่บ้านไม่ต้องไปทำงานไกลๆ..... ให้เค้าได้มีที่ปรึกษาเวลาติดขัดปัญหา.... ให้เค้าได้มีวัตถุดิบใช้หรือให้ยืม โดยไม่ต้องไปซื้อไกล.....(บางคนขาดสีแค่ถุงเดียว ราคา 10 บาท ต้องนั่งรถไปซื้อถึงกรุงเทพ เสียเวลาทั้งวัน)
พอคิดได้ดังนี้....... พี่หมีก็ตั้งหน้า ตั้งตาสอนลูกน้องใหม่ๆ เพิ่มขึ้น และเริ่มงานเชิญของหน่วยงาน ราชการต่างๆ ให้ไปเป็นวิทยากรสอนปั้นดอกไม้เทียน ให้กับกลุ่มอาชีพ และกลุ่มแม่บ้าน ที่พี่หมีเคยปฎิเสธอย่างเด็ดขาด ตอนสมัยทำเทียนใหม่ๆ....พี่หมีคิดว่า คนที่ผ่านการสอนของพี่หมีมีไม่ต่ำกว่า 1000 คนแน่นอน.....
พอทำได้ดังนี้แล้ว ก็สบายใจมากขึ้นค่ะ ลูกน้องหลายคนก็มีออกไปทำเองบ้าง ไปดีๆ คุยกันก็ไม่มีปัญหาอะไร ขาดเหลืออะไรก็ให้มาเอา มายืม... งานน้อยก็มารับงานกับพี่หมีได้ ใครอยากอยู่กับพี่หมีก็อยู่ ใครอยากไปทำเองก็ไป...
แต่มีบางคนเหมือนกันค่ะ ที่ส่งคนของตัวเองมาหลอกให้พี่หมีสอน พอทำเป็นแล้วให้ไปทำที่เค้า จับไม่ได้ก็ไม่เป็นไร จับได้ก็สอนเหมือนกัน แต่จะฝากบอกไปนิดนึง ว่า....คนของเธอ เธอทำเป็น เธอก็ควรจะสอนเอง ไม่ใช่ส่งมาให้เราสอน.....
ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกค่ะ ว่ามีกรณีอย่างนี้ด้วย แต่สงสัยว่า ทำไมหลายคนมาสมัครงานกับเรา แล้วอาทิตย์เดียวลาออก.... พี่เจอเยอะมาก จนต้องสัมภาษณ์คนที่มาสมัครงานใหม่อย่างละเอียด ถึงได้รู้ความจริงว่า ....มาสมัครงานเพื่อหลอกให้พี่หมีสอนนั่นเอง
พี่หมีสอนลูกน้องของตัวเองฟรีก็จริง ....แต่ทำแบบนี้มันเอาเปรียบกันเกินไปค่ะ......
เอาล่ะค่ะ ......เหตุการณ์ที่พี่หมีเล่า ก็ผ่านไปนานแล้ว สำหรับตอนนี้ กุศลทั้งหลายที่เคยทำมาก็ส่งให้ผลให้เหมือนกันค่ะ.... มีกลุ่มแม่บ้าน มีลูกน้องเก่า มีลูกน้องของลูกน้อง มีคนที่ทำเทียนเป็นมารับงานกับพี่หมีมากมาย จนออร์เดอร์หนึ่งแสนชิ้น สามารถทำเสร็จได้ภายในเวลาแค่สองสัปดาห์น่ะค่ะ ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนไม่มีทางเป็นไปได้เลย.......ทำให้พี่หมีรับงานเยอะๆ ได้โดยไม่ต้องเป็นกังวลเลยค่ะ.......
อะแฮ่ม......เกริ่นมายาวมาก พี่หมียังไม่ได้ตอบคคำถามเลย "สอนคนอื่น ไม่กลัวถูกแย่งอาชีพเหรอ ใจกว้างจัง"
ขอตอบว่า ไม่กลัวค่ะ ....เพราะการปั้นดอกไม้เทียนมันมีข้อจำกัด ....ตรงที่ในวันหนึ่งๆ คนเราไม่สามารถปั้นเทียนให้เยอะๆ ได้ เพราะ..... นี่เป็นงานฝีมือ ไม่ใช่งานเครื่องจักร ที่จะปั๊มออกมาเท่าไหร่ก็ได้ งานฝีมือต้องใช้เวลา ใช้ความละเอียด ปราณีต ใช้สมาธิ งานจึงจะออกมาดี และสวย
เพราะฉนั้น งานปั้นดอกไม้เทียน จึงเป็นงานที่คนเยอะทำได้เยอะ คนน้อยทำได้น้อยค่ะ....
สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือ....งานปั้นดอกไม้เทียนฝีมือคนไทยสวยงาม อ่อนช้อย อย่างที่ชาติไหนก็สู้ไม่ได้ ใช้เทคโนโลยี่อะไรมาก็ช่วยให้เร็ว ให้สวยก็ไม่ได้ค่ะ..... ขึ้นอยู่กับฝีไม้ลายมืออย่างเดียวจริงๆ
งานดอกไม้เทียนของประเทศอื่นมีมั้ย.....มีค่ะ แต่ไม่สวย และไม่เป็นที่นิยมเท่าของไทย ความต้องการของตลาดยังมีสูงมากอยู่ และไม่มีทางหมดความนิยมไปง่ายๆ เพราะเป็นสินค้าที่ใช้แล้วหมดไป และต้องซื้อใหม่ .....
งานเทียนมีหลายประเภทค่ะ เช่น เทียนแท่ง เทียนก้อนสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม เทียนทีไลท์ ฯลฯ เทียนเหล่านี้ใช้เครื่องทำ ใช้พิมพ์ช่วย ซึ่งเทคโนโลยี่บางอย่างใช้ทุนสูง และสู้ประเทศอื่นไม่ได้ โดยเฉพาะประเทศจีนที่ก้าวไปไวมาก แต่ลองเสิร์ชคำว่า floating flower candle ดูสิคะ ว่าถ้ามีมากน้อยแค่ไหน ถ้า เทียบ votive หรือ pillar candle
ทำเทียนดอกไม้ให้สวย มีคุณภาพดี จุดได้จริง ยังไงก็รุ่งค่ะ สำหรับผู้ที่ต้องการทำเป็นอาชีพ....
สำหรับผู้ที่ต้องการ ทำแจกเป็นของขวัญ ทำใช้เอง ก็ลงทุนไม่มากค่ะ อุปกรณ์ต่างๆ ส่วนใหญ่ก็อยู่ในครัวนั่นเอง ลองหัดปั้นดูตามคลิปที่จะทยอยเอามาลงเรื่อยๆ นะคะ ทำใช้เอง หรือทำแจก ผู้รับก็ดีใจ..... ผู้ให้ก็จะยิ้มแย้ม จุดเทียนแล้ว แสงเทียนทำให้เกิดความสุนทรี และมีความสุขค่ะ
ขอแนะนำตัวค่ะ
สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อสิริกาญจน์ นามประสิทธิ์ ชื่อเล่นชื่อ..."หมี".. ขอเรียกตัวเองว่า "พี่หมี"แล้วกันเนอะ ....เพราะ..เอ่อ ปูนนี้แล้วอ่ะค่ะ เห็นรูปแล้วอย่าเรียก "ป้าหมี" นะ...ขอร้อง...เอาเก็บไว้ให้หลานตัวเล็กๆ เรียกแล้วกัน แหะ ๆ ๆ ๆ
ว้นนี้.....พี่หมีสร้างบล็อกขึ้นมาเพื่อ....แอ่น...แอน...แอ๊น...เปิดเผยเคล็ดลับบางอย่างที่เค้าไม่บอกกัน นั่นคือ เทคนิคการปั้นดอกไม้เทียน(flower candles)
พี่หมีตั้งใจจะสอน บอกสูตร บอกวิธี บอกกลเม็ดเคล็ดลับทุกประการให้สะเด็ดน้ำไปเลยว่า แต่ละดอก เค้าปั้นกันยังไง ใครดูแล้วดูอีก นั่งดู นอนดู เอียงคอดูหลายตลบแล้วยังไม่เข้าใจก็โพสต์ถามได้เลยนะจ๊ะ
......นี่ไง เทียนดอกกุหลาบ (rose candle) ดอกใหญ่เท่ากะละมัง ก็จะสอนล่ะ....
แต่.....โอ้ว! นี่มันแอดวานซ์ไปหรือปล่าวคะคุณน้องขา เอาไว้บทท้ายๆ แล้วกันนะ เดี๋ยวจะท้อกันไปซะก่อน
ต้องตัวนี้ก่อนค่ะ จิ๊บๆ กุ๊บกิ๊บๆ ง่ายๆ สบายๆ สวยด้วย กำลังฮิต
นี่คือ เทียนหอมลีลาวดี (floating candle) ค่ะ เป็นเทียนหอมลอยน้ำ หรือจะเรียกว่าลีลาวดีลอยน้ำก็ได้ค่ะ
แต่อ๊ะ....เอ๊ะ... แล้วพี่หมีเป็นใครล่ะเนี่ย.... ทำไมมาสอนปั้นดอกไม้เทียน....ทำเป็นจริงอ๊ะปล่าว....สอนได้จริงหรือ....ถึงทำเป็นก็คงกั๊กมั้ง... ไม่มีใครเค้ามาบอกกันจริงๆ หรอก
เอาล่ะค่ะ....เรื่องกั๊กไม่กั๊กนี่ ก็ต้องดูกันไปเรื่อยๆ จากการบอกเล่า ดูคลิบ ตอบข้อสงสัยต่างๆ ก็คงจะรู้ว่าพี่หมีกั๊กหรือเปล่าเนอะ
พี่หมีทำเทียนมานานแล้วค่ะ ตั้งแต่สมัยฟองสบู่แตก ปีพศ. 2540 เรียกว่าทำเทียนมาวันนี้ก็ 15 ปี ตอนแรกก็ทำเป็นอาชีพเสริมรายได้จากงานประจำ พอขายดีขึ้น แล้วมองเห็นลู่ทาง ก็เลยลาออกจากงานประจำ ก็มาทำเทียนเต็มตัวค่ะ
ตอนนี้พี่หมีผลิตเทียนหอมในนามของ บีเคแคนเดิล(bkcandle) ซึ่งรวบรวมชาวบ้านใกล้มารวมกลุ่มกันโดยใช้ชื่อว่าเมขลาเทียนหอม พนักงาน และกลุ่มแม่บ้านทุกกลุ่มปั้นดอกไม้เทียน ได้โดยจากการสอนของพี่หมีเองค่ะ
ประสบการณ์สอนที่มากกว่า 500 คน เป็นวิทยากรให้กับกลุ่มแม่บ้านหลายๆ กลุ่ม ที่ต้องการอาชีพเสริม พี่หมีเคยออกรายการทไวไลท์โชว์ รายการโชว์บาย โชว์บาย รายการร้อยเรื่องเมืองไทย สมัยทำเทียนใหม่ๆ ด้วยค่ะ
เอาคร่าวๆ เท่านี้ก็คงทำให้ทุกท่านมั่นใจได้เนอะว่า พี่หมีปั้นดอกไม้เทียนเป็น และมีประสบการณ์มั่กๆ ......แต่...ถึงอย่างไรพี่หมีก็ยังเชื่อว่า "เหนือฟ้ายังมีฟ้า ....เหนือปลาร้าก็ยังมีหนอน" (เอ๊ะ...เกี่ยวกันยังไง) ถ้าผู้ใดมีทริก เคล็ดลับอะไรที่เด็ดกว่าพี่หมี หรืออยากจะแชร์ ก็บอกเล่าเก้าสิบกันได้นะคะ ทำไปทำมา พี่หมีอาจเป็นเบบี๋ไปเลยก็ได้
ขอแนะนำตัวสั้นๆ เท่านี้ก่อนค่ะ เรื่องทำเทียนพี่หมีจะค่อยๆ เริ่มต้นจาก เรียนรู้วัตถุดิบก่อน แล้วค่อยๆ ขยับไปเริ่มต้นปั้นดอกไม้เทียนจากง่ายไปยากค่ะ.........
ว้นนี้.....พี่หมีสร้างบล็อกขึ้นมาเพื่อ....แอ่น...แอน...แอ๊น...เปิดเผยเคล็ดลับบางอย่างที่เค้าไม่บอกกัน นั่นคือ เทคนิคการปั้นดอกไม้เทียน(flower candles)
พี่หมีตั้งใจจะสอน บอกสูตร บอกวิธี บอกกลเม็ดเคล็ดลับทุกประการให้สะเด็ดน้ำไปเลยว่า แต่ละดอก เค้าปั้นกันยังไง ใครดูแล้วดูอีก นั่งดู นอนดู เอียงคอดูหลายตลบแล้วยังไม่เข้าใจก็โพสต์ถามได้เลยนะจ๊ะ
......นี่ไง เทียนดอกกุหลาบ (rose candle) ดอกใหญ่เท่ากะละมัง ก็จะสอนล่ะ....
แต่.....โอ้ว! นี่มันแอดวานซ์ไปหรือปล่าวคะคุณน้องขา เอาไว้บทท้ายๆ แล้วกันนะ เดี๋ยวจะท้อกันไปซะก่อน
ต้องตัวนี้ก่อนค่ะ จิ๊บๆ กุ๊บกิ๊บๆ ง่ายๆ สบายๆ สวยด้วย กำลังฮิต
นี่คือ เทียนหอมลีลาวดี (floating candle) ค่ะ เป็นเทียนหอมลอยน้ำ หรือจะเรียกว่าลีลาวดีลอยน้ำก็ได้ค่ะ
แต่อ๊ะ....เอ๊ะ... แล้วพี่หมีเป็นใครล่ะเนี่ย.... ทำไมมาสอนปั้นดอกไม้เทียน....ทำเป็นจริงอ๊ะปล่าว....สอนได้จริงหรือ....ถึงทำเป็นก็คงกั๊กมั้ง... ไม่มีใครเค้ามาบอกกันจริงๆ หรอก
เอาล่ะค่ะ....เรื่องกั๊กไม่กั๊กนี่ ก็ต้องดูกันไปเรื่อยๆ จากการบอกเล่า ดูคลิบ ตอบข้อสงสัยต่างๆ ก็คงจะรู้ว่าพี่หมีกั๊กหรือเปล่าเนอะ
พี่หมีทำเทียนมานานแล้วค่ะ ตั้งแต่สมัยฟองสบู่แตก ปีพศ. 2540 เรียกว่าทำเทียนมาวันนี้ก็ 15 ปี ตอนแรกก็ทำเป็นอาชีพเสริมรายได้จากงานประจำ พอขายดีขึ้น แล้วมองเห็นลู่ทาง ก็เลยลาออกจากงานประจำ ก็มาทำเทียนเต็มตัวค่ะ
ตอนนี้พี่หมีผลิตเทียนหอมในนามของ บีเคแคนเดิล(bkcandle) ซึ่งรวบรวมชาวบ้านใกล้มารวมกลุ่มกันโดยใช้ชื่อว่าเมขลาเทียนหอม พนักงาน และกลุ่มแม่บ้านทุกกลุ่มปั้นดอกไม้เทียน ได้โดยจากการสอนของพี่หมีเองค่ะ
ประสบการณ์สอนที่มากกว่า 500 คน เป็นวิทยากรให้กับกลุ่มแม่บ้านหลายๆ กลุ่ม ที่ต้องการอาชีพเสริม พี่หมีเคยออกรายการทไวไลท์โชว์ รายการโชว์บาย โชว์บาย รายการร้อยเรื่องเมืองไทย สมัยทำเทียนใหม่ๆ ด้วยค่ะ
เอาคร่าวๆ เท่านี้ก็คงทำให้ทุกท่านมั่นใจได้เนอะว่า พี่หมีปั้นดอกไม้เทียนเป็น และมีประสบการณ์มั่กๆ ......แต่...ถึงอย่างไรพี่หมีก็ยังเชื่อว่า "เหนือฟ้ายังมีฟ้า ....เหนือปลาร้าก็ยังมีหนอน" (เอ๊ะ...เกี่ยวกันยังไง) ถ้าผู้ใดมีทริก เคล็ดลับอะไรที่เด็ดกว่าพี่หมี หรืออยากจะแชร์ ก็บอกเล่าเก้าสิบกันได้นะคะ ทำไปทำมา พี่หมีอาจเป็นเบบี๋ไปเลยก็ได้
ขอแนะนำตัวสั้นๆ เท่านี้ก่อนค่ะ เรื่องทำเทียนพี่หมีจะค่อยๆ เริ่มต้นจาก เรียนรู้วัตถุดิบก่อน แล้วค่อยๆ ขยับไปเริ่มต้นปั้นดอกไม้เทียนจากง่ายไปยากค่ะ.........
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)